Title: รักเลย
Status: Shot fiction
Fandom: Singular
Pairing: NuT-SiN
Author: sine
Author’s Note: เป็นเรื่องแรกที่เขียนเกี่ยวกับแฟนฟิคไทย....เรื่องราวอาจจะเรื่อยๆแต่ก็ขอฝากเอาไว้ด้วยนะคะเผื่อจะชอบกัน... เรื่องราวตอนนี้เป็นมุมมองผ่านมุมของผู้ชายที่ชื่อนัทคนเดียว ซึ่งวันหลัง(แต่ไม่รู้วันไหนจะมาต่อในส่วนของผู้ชายที่ซื่อซินนะคะ) อดรนทนไม่ไหวจนต้องแต่งขึ้นมาก็เพราะว่าชอบมากๆๆๆๆๆ ดังนั้นขอภาวนาอย่าให้ ศลป. มาเจอเลยค่ะ555
โชติวุฒิ หรือ นัท หรือ ไอ้ถั่วงอกของเพื่อนๆพาหน้าขาวๆของตัวเองตรงไปยังเคาท์เตอร์ที่มีหญิงสูงวัยยืนต้อนรับอยู่
“ที่จองไว้ครับ” เจ้าของบ้านยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของแขกหนุ่มน้อยก่อนจะพาไปยังชั้นบนของบ้านที่จัดไว้เป็นห้องพักแบบโฮมสเตย์
“ตอนเช้าจะให้ปลุกไปใส่บาตรหรือเปล่าจ๊ะพ่อหนุ่ม” เธอถาม เพราะที่นี่ในตอนเช้าจะมีการใส่บาตรข้าวเหนียว ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะชอบเพราะไม่มีที่ไหนทำ
“...ขอดูคืนนี้ก่อนครับว่าจะดึกหรือเปล่า ยังไงผมจะแจ้งอีกทีตอนก่อนเข้านอนนะครับ”
“จ้า”
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง จ้องมองเพดานห้องเหม่อลอย ในหัวว่างเปล่าเหมือนก่อนหน้าจะมาที่นี่ เหลียวไปมองกระเป๋ากีตาร์ตัวเก่งแล้วถอนหายใจลุกขึ้นถอดเสื้อคลุมออก คว้ากีตาร์ออกจากกระเป๋าวางพาดบนตัก นิ้วเรียววางทาบลงบนสาย หมุนปรับเสียงแล้วกรีดนิ้วไล่โน้ตก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อไม่มีเพลงใดออกมา นัทถอนหายใจแล้วตัดสินใจจะแบกกีตาร์ออกไปข้างนอก บ่าแกร่งยังคงสะพายกระเป๋ากีตาร์ตัวใหญ่เหมือนไม่รู้สึกหนักอะไร
ขายาวพาตัวเองเดินไปเชื่องช้าตามร้านรวงต่างๆ ซึ่งเวลานี้ยังเช้าเกินไปเพราะบางร้านยังไม่เปิดให้บริการแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรมากนักถึงอย่างไรเขาก็แค่อยากออกมาสูดอากาศเผื่อหัวจะได้ปลอดโปร่งขึ้นและสามารถแต่งเพลงได้บ้างสักเพลง ช่วงจังหวะที่เดินผ่านร้านหนึ่งไปหางตาของเขาก็อะไรบางอย่างปลิวไหว เท้าทั้งคู่ชะงักเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง เขาหันหลังกลับไปมองรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว
เรือนผมสลวยหยักศกยาวทิ้งตัวจนถึงกลางแผ่นหลัง ไหล่เล็กภายใต้เสื้อยืดสีเขียวอ่อนกับกางเกงเข้ารูปอวดเรือนขาเรียว ผ้าพันคอสีดำถูกพันเลยคลุมไปยังไหล่ ใบหน้าเนียนขาว จมูกโด่งเชิดรั้นยามเจ้าของหันไปมองทุกสิ่งรอบข้างด้วยความสนใจ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อสงสัยกับบางสิ่งที่วางอยู่หน้าร้านค้า ริมฝีปากบางขยับเอ่ยถามเจ้าของร้านไขข้อข้องใจของตัวเองและเสียงหัวเราะใสเมื่อได้รับคำตอบกลับมา มือขาวยกกล้องขึ้นถ่ายรูปทุกสิ่งที่สนใจแล้วหันเดินจากไป
ไม่รู้ว่าตัวเองยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นแค่ไหน สายตายังคงจับจ้องแผ่นหลังของใครคนนั้นที่ค่อยๆเดินห่างออกไปและเขาจึงตัดสินในใจนาทีนั้นทันที เท้าแกร่งเดินตามเจ้าของแผ่นหลังนั้นไปเรื่อยๆเมื่อเห็นฝ่ายนั้นหยุดร้านไหนเขาก็จะหยุดร้านถัดไป แอบมองใบหน้าน่ารักโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว เส้นผมสีนิลไหวตามแรงลม เจ้าของเรือนผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยออกจากใบหน้า
เมื่อเดินจนเหนื่อยใครคนนั้นจึงแวะร้านที่เปิดโล่ง ด้านหลังติดริมแม่น้ำโขงเพื่อซื้อน้ำดื่ม เขาจึงเดินไปหยุดอีกร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและซื้อน้ำเหมือนกัน มือขาวยังคงยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเป็นระยะๆ มีบ้างที่ให้เจ้าของร้านถ่ายรูปให้ เขาอยากจะเดินเข้าไปแล้วบอกว่า ผมถ่ายรูปให้ไหมครับ เหลือเกิน แต่เขาเกรงว่าคนน่ารักจะมองเขาแปลกๆดังนั้นจึงได้แต่มองคนอื่นถ่ายรูปให้คนน่ารักของเขาอย่างแสนเสียดาย
ยามที่ขาเล็กนั้นก้าวไปหนึ่งก้าว เขาก็จะก้าวพร้อมกันไปหนึ่งก้าวในฝั่งตรงข้ามของถนน จนเวลาเปลี่ยนเป็นค่ำ ร้านค้าต่างๆเริ่มเปิดกันจนเต็มถนน แสงไฟสว่างแข่งกัน จำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ชายหนุ่มเริ่มลำบากเมื่อต้องคอยชะเง้อมองหาคนที่อยู่ตรงข้ามเป็นระยะๆ ยิ่งเมื่อฝ่ายนั้นตัวเล็กนิดเดียวยิ่งถูกบังได้ง่ายจนเกือบมองไม่เห็นสร้างความหงุดหงิดให้เขามากขึ้นจนสุดท้ายก็ต้องยอมตัดใจเมื่อมองหาอีกฝ่ายไม่เห็นและหลุดหายไปจากสายตา
นัทลากขากลับมายังบ้านพักเหมือนคนหมดแรงและเขาหมดอารมณ์จะเดินเที่ยวต่อตั้งแต่ใครคนนั้นหายไปกับฝูงชนแล้ว เขานั่งทอดอารมณ์บนเก้าอี้หน้าบ้านหลังจากสั่งอาหารง่ายๆและกาแฟหนึ่งแก้วมานั่งจิบพลางมองเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไป-มา
อากาศหนาวขึ้นจนต้องลูบแขนตัวเองเป็นระยะก่อนจะหยิบกีตาร์ตัวเก่งกลับขึ้นห้องแวะบอกเจ้าของบ้านว่าพรุ่งนี้เช้าไม่ต้องปลุกเขามาใส่บาตรข้าวเหนี่ยวเพราะคืนนี้คงนอนดึก กลับขึ้นมานั่งนิ่งคิดถึงใบหน้ายามที่ฝ่ายนั้นหัวเราะนัทก็เผลอหัวเราะออกมาคนเดียว นิ้วเรียวจึงแตะลงบนคอร์ดหลังจากปรับเสียงเสร็จแล้วจึงกรีดนิ้วกลายเป็นท่วงทำนอง
เพลงที่ไม่สามารถแต่งออกมาได้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนตอนนี้กลับง่ายเพียงนิดเมื่อเขานึกถึงใครบางคน โน๊ตต่างๆและทำนองก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาโดยอัตโนมัติ เขาควรจะขอบใจเพื่อนดีหรือไม่ที่โยนเข้าขึ้นรถมาลงที่เชียงคานแล้วได้เจอกับแรงบันดาลใจของเพลงเพลงนี้...
หากนัทจะเป็นคนเรื่อยเฉื่อยมากกว่าการหมกมุ่นกับกีตาร์เขาอาจจะยังไม่กลับห้องเร็วนัก โดยไม่รู้ตัวและไม่เคยคิดฝันว่าบางทีคนที่เขาคิดถึงอาจจะอยู่ใกล้แค่นิดเดียวหากเขาจะนั่งตรงนี้นานอีกหน่อยหรือยอมทนหนาวไปนั่งริมแม่น้ำโขงสักนิดเขาอาจจะได้เอ่ยประโยค ผมถ่ายรูปให้ไหมครับ หรือ ยินดีที่ได้รู้จัก กับใครคนนั้นก็ได้ และถ้าหากเพียงชายหนุ่มจะหันหลังกลับมายังบ้านพักฝั่งตรงข้ามเขาก็คงได้เจอ...
เช้าวันรุ่งขึ้นนัทไม่ได้ตื่นสายอย่างที่คิดเมื่อลืมตาขึ้นเพราะอากาศหาวเย็นและเขาไม่หลับอีกเลย จนสุดท้ายก็ต้องคว้าเสื้อกันหนาวมาสวมเดินลงมาข้างล่างหากแต่ก็ไม่ทันใส่บาตรอยู่นั่นเอง วันนี้เขาตั้งใจจะเดินไปตามทางเมื่อวานอีกครั้งหากแต่เปลี่ยนจากสายถนนด้านหน้าเป็นเส้นที่ติดกับริมแม่น้ำโขงและวันพรุ่งนี้จึงค่อยไปแก่งคุดคู้ที่คุณป้าเจ้าของบ้านแนะนำ หลังจากจัดการอาหารเช้า และกาแฟเขาจึงแบกกีตาร์ไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ มองน้ำโขงไหลเอื่อยท่ามกลางหมอกขาว อากาศเย็นๆช่วยให้รู้สึกสดชื่นต่างจากแดดร้อนยามกลางวันมากนัก
ท่วงทำนองสดชื่นฟังสบายหูหากบางครั้งยังแฝงความหวานละมุนตามแบบฉบับของเขาเองเข้ากับบรรยากาศจนคนที่เดินผ่านไปมาบางคนหยุดยืนฟัง แต่เพราะนัทมัวแต่สนใจกีตาร์และเพิ่มทำนองเข้าไปในเพลง เขาตัดขาดสิ่งรอบตัวทำให้พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย... เมื่อร่างเล็กบางของใครบางคนก็เป็นหนึ่งในคนที่หยุดยืนฟังเพลงของนัทด้วยเช่นกัน
เวลาค่ำเหมือนเมื่อวาน นัทเดินไปตามร้านรวงต่างๆด้วยฝีเท้าช้าเฉื่อย มองข้ามกลุ่มคนที่เดินเต็มถนนหาเจ้าของเส้นผมสีนิลยาวหยักศกคนนั้น แล้วหัวใจของเขาก็เต้นแรงเมื่อเห็นแม้เพียงปลายผมขยับไหวตามแรงลมนั้นและใบหน้าขาวก็หันมา นัทยิ้มกว้างเขายืนนิ่งก้าวขาไม่ออก ร่างเล็กเดินมาทางเขาพร้อมรอยยิ้มสวย เหงื่อซึมขมับ มือไม้เย็น อยากจะยกหลังมือขึ้นเช็ดหากแต่มันอ่อนแรงไปหมด
แล้วหัวใจของนัทก็เหี่ยวแฟ่บลง ยิ้มยังคงค้างบนริมฝีปากบางเมื่อร่างนั้นเดินผ่านเลยเขาไปพร้อมเสียงหวานจับใจนั้นเอ่ยร้องทักใครคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ชายหนุ่มแก้มป่องยิ้มตาหยีเมื่อเจ้าของเรือนผมยาวเข้าไปทัก นัทหันกลับไปมองทั้งสองคนด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก
“พี่แสตมป์ มาถึงช้าจัง” น้ำเสียงหวานใสที่นัทเพิ่งมีโอกาสได้ฟังครั้งแรกร้องเรียกชื่ออีกคน ความรู้สึกอิจฉาพุ่งวาบเข้ามาในจิตใจ แล้วก็กลายเป็นเศร้าเมื่อผู้ชายคนนั้นยกมือขึ้นยีผมยาวๆของคนน่ารัก ยิ้มกว้างกับดวงตาหยีของทั้งสองคนทำเอานัทถึงกับยืนนิ่ง
ชายหนุ่มก้มหน้าลงจึงไม่ทันเห็นแววตาสงสัยของคนตัวโตกว่าเมื่อคนผมยาวหันไปมองใบหน้าซีดเซียวของคนที่ยืนใกล้กัน แววตาซุกซนเหมือนคนขี้แกล้งนั้นจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะรั้งแขน พี่แสตมป์ ออกเดิน เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ตลอดเส้นทาง แวะถ่ายรูปบ้างซึ่งส่วนใหญ่คนผมยาวมักจะเป็นฝ่ายกดชัตเตอร์เสียมากกว่า ถึงจะรู้สึกเหมือนคนอกหักแต่มันยากเหลือนที่จะเลิกเดินตามใครคนนั้น นัทจึงยังคงเดินช้าๆเฝ้ามองฝ่ายนั้น จนดึกดื่นและเดินจนเหนื่อย พี่แสตมป์ จึงยกมือขึ้นยีหัวคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดูแล้วหันหลังแยกจากไป ฝ่ายนั้นโบกมือลาที่คนตัวเล็กก็โบกตอบ นัทถอนหายใจและยิ้มกว้างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ได้พักด้วยกัน อย่างน้อยก็อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาก็แค่พี่น้องกัน... เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเข้าที่พักไปแล้วชายหนุ่มจึงคิดว่าตัวเขาเองก็ควรจะกลับไปนอนได้แล้ว เขาหันจะเดินออกมาแล้วก็ต้องเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น....
ชายหนุ่มเงยหน้ามองบ้านพักของตัวเองนิ่ง... บ้านพักที่เขาอยู่นั้นอยู่ตรงข้ามกับใครคนนั้น! โธ่ เขานี่งี่เง่านัก ทำไมถึงเพิ่งมารู้เอาป่านนี้นะ! นัทถอนหายใจ หันหลังกลับมาหยุดยืนหน้าบ้านพักที่ใครคนนั้นเพิ่งเดินเข้าไปเมื่อครู่...ถ้าเขาเข้าไปถามห้องว่างจากเจ้าของบ้านจะโดนด่าเอาไหมนะ? นัทยืนนิ่ง มองเลยไปยังชั้นบนกวาดสายตามองหาเผื่อจะได้รู้ว่าใครคนนั้นพักห้องไหน
“ห้องเต็มหมดแล้วครับ” นัทยิ้มแหยให้เจ้าของบ้านที่เดินออกมาบอกชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าเขายืนนิ่งหน้าบ้านอยู่นานสองนานแล้ว นัทพยักหน้ารับแล้วหันหลังกลับเข้าบ้านพักของตัวเอง
นิ้วเรียวยังคงค้างบนสายกีตาร์ ความคิดของนัทวิ่งวุ่นไปหมด ภาพของคนสองคนทำให้เขาเจ็บยอกในอกหากแต่การลาจากตอนก่อนจะเข้าบ้านพักทำให้หัวใจของเขากลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง อย่างน้อยสองคนนั้นก็ไม่ได้พักด้วยกันหรือมากที่สุดที่เขาหวังคือ สองคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน...
แล้วจะทำอย่างไรให้คนน่ารักมองเห็นเขา?
นัทครุ่นคิดทั้งคืนกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้และเขาก็มีความคิดดีๆนั้นแล้ว ขอแค่ให้ค่ำพรุ่งนี้ใครคนนั้นยังคงอยู่ที่เชียงคานก็แล้วกัน และถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะลองกล้าดู...
เช้าตรู่คุณป้าเจ้าของบ้านมาปลุกชายหนุ่มตามที่เขาบอกก่อนนอนและนัทก็ทันใส่บาตรข้าวเหนียวในที่สุดหากแต่เมื่อไล่สายตาไปยังบ้านพักฝั่งตรงข้ามกับไม่เห็นหน้าคนที่เขาฝันถึงเมื่อคืน ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะสะพายเป้ขึ้นบ่าแล้วนั่งรถไปยังแก่งคุดคู้ ปรกติเขาไม่ใช่คนที่ชอบพกกล้องถ่ายรูป หากไปเที่ยวไหนเขาคิดว่าการเก็บภาพด้วยสายตาของตัวเองนั้นดีที่สุด อากาศเย็นขึ้นกว่าเมื่อวาน นัทกระชับเสื้อคลุมพลางสูดอากาศเข้าเต็มปอดก่อนจะไอแห้งๆออกมา และจามอีกนิดหน่อย เขามันพวกเป็นหวัดง่ายแต่ก็ไม่ค่อยดูแลตัวเองสักเท่าไหร่
“!” นัทสะดุ้งเมื่ออยู่ดีๆก็มีคนมาสะกิดแขนพร้อมยื่นแก้วกาแฟร้อนมาให้ ชายหนุ่มก้มมองเด็กชายตัวเล็กพลางยิ้มกว้าง “มีอะไรกับพี่หรือครับ?”
“มีคนให้เอานี่มาให้พี่ครับ” เด็กชายยังคงยื่นแก้วมาให้ กลิ่นหอมของกาแฟยั่วจมูก แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่นัทยื่นมือไปรับแต่เป็นเพราะความร้อนของมันคงทำให้เด็กชายไม่สบายมือนัก
“ใครครับ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นแปลกใจ
“พี่คนสวยๆ” เด็กชายว่า แต่มันไม่ได้ช่วยให้นัทเข้าใจมากขึ้นเลย
“ท่าทางพี่เขาเป็นยังไง?” นัทถามต่อ
“พี่เขาไม่ให้บอก แต่มีนี่ให้ด้วยครับ” เด็กชายล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กระดาษแผ่นเล็กถูกส่งมาให้ ในนั้นมีลายมือหวัดๆเขียนเอาไว้ นัทบอกขอบใจเด็กชายแล้วฝ่ายนั้นก็วิ่งปรู๊ดจากไป เขาก้มลงอ่านข้อความในกระดาษนั้น
‘กาแฟร้อนๆจะช่วยให้อุ่นขึ้นนะ’
นัทไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มกว้างแค่ไหนตอนอ่านข้อความนั้น นอกจากฝ่ามือที่อุ่นจากความร้อนของกาแฟแล้ว ในใจเขามันก็อุ่นขึ้นมาแปลกๆด้วย คนสวย ของเด็กชายเป็นใครเขาไม่รู้ แต่นัทอยากจะเพ้อฝันเข้าข้างตัวเองเหลือเกินว่า ขอให้คนสวยของเด็กชายนั้นเป็นคนสวยคนเดียวกันกับเขา นัทหัวเราะกับความคิดของตัวเอง... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน...
ค่ำนั้นนัทจัดการอาบน้ำแต่หัววัน เลือกชุดดูดีที่สุดที่เขาเตรียมมาก่อนคว้ากีตาร์ตัวเก่งลงไปยังถนนสายเดิม เขาเลือกร้านที่มีรถเวสป้าเก่าจอดไว้ เข้าไปคุยกับเจ้าของร้านที่ใจดีอนุญาตพร้อมทั้งหาเก้าอี้เข้ากับบรรยากาศของร้านมาให้ชายหนุ่มนั่งอีกต่างหาก นัทยิ้มกว้างขอบคุณแล้วเริ่มต้นตั้งสายปรับเสียง คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่ที่นี่เพราะหมดวันหยุดของเขาแล้วและนี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาได้พบกับคนนั้นอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเจอหรือไม่เพราะฝ่ายนั้นอาจจะกลับไปแล้วก็ได้
นิ้วเรียวยาวไล่กรีดสายจนเกิดเป็นท่วงทำนองเพลงช้าๆหวานซึ้ง เพลงแล้วเพลงเล่าที่เล่นไป นัทก็เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆและยิ้มรับเมื่อจำนวนคนที่หยุดยืนฟังเพลงนั้นเพิ่มขึ้น จนค่อนคืน...ก็ยังไม่เห็นคนที่เขาคิดถึง นัทถอนหายใจคิดจะเล่นอีกเพลงเป็นเพลงสุดท้าย ความหวังจะได้พบเจอคนที่บังเอิญพบระหว่างทาง ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อหรือการพูดคุยมองหน้า...ช่างเป็นสิ่งที่เลื่อนลอยเหลือเกิน
หลงรักเพียงแค่เดินผ่าน...
คิดถึงทั้งๆที่ไม่รู้จัก...
เขากลายเป็นผู้ชายอย่างนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันหนอ นัทยิ้มเศร้ากับตัวเอง ...ดูเหมือนจะอกหักทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเสียแล้ว
ชายหนุ่มเลือกเพลงสุดท้ายแล้วเล่น พลันสายตาของเขาก้หยุดนิ่งกับคนตรงหน้า ทุกอย่างหยุดชะงักแม้กระทั่งนิ้วของเขา รอบกายเงียบกริบท่ามกลางความแปลกใจของคนยืนฟังเพราะเจ้าของกีตาร์แน่นิ่งไม่ขยับไหว ใบหน้าหล่อเหลามองตรงนิ่งไปยังร่างเล็กของใครบางคน และริมฝีปากบางสีสดของใครคนนั้นขยับเป็นคำพูดแผ่วเบาไม่ได้ยินเสียงหากแต่จับใจความได้ว่า
‘กีตาร์แมน เล่นซิ’
นั่นแหละนัทจึงได้สติ กระแอมไอแก้เก้อเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเล่นต่อด้วยใจเต้นไม่เป็นส่ำ มือไม้พากันสั่นเหมือนหัวใจของเขาเลยมีบางโน๊ตบอดขึ้นมาเฉยๆ นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเขินมากขึ้นไปอีก ยามเมื่อรอยยิ้มสวยนั้นหวานจนเขาแทบละลายถูกส่งมาให้ กว่าจะจบเพลงนัทรู้สึกเหมือนจะขาดใจเพราะความร้อนพวยพุ่งขึ้นไปทั้งหน้าของเขา ต่อหน้านักเรียนมากมายในห้องหรือการเริ่มงานครั้งแรกเขาไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้เลยสักครั้งนอกจากการประกวดแข่งกีตาร์ระดับประเทศครั้งนั้นครั้งเดียว
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม กีตาร์แมน?” น้ำเสียงหวานนั้นเอ่ยถาม นัทเบิกตากว้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองพยักหน้ารัวเร็วจนคอแทบหักตอบรับคนน่ารักตรงหน้า
เส้นผมยาวละกลางหลังนั้นขยับไหวตามเจ้าของและตอนนี้มันเคลียอยู่บนบ่าของเขาให้ได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆ ใบหน้าน่ารักนั้นเอียงเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นแป้งเด็ก นัทหูอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสักอย่างแม้กระทั่งเสียงของคนข้างกาย เขาได้แต่มองริมฝีปากบางคู่นั้นขยับไปมา สายตาจับจ้องใบหน้าเนียนตาไม่กะพริบ แขนเล็กยกกล้องขึ้นหันเลนส์มาทางพวกเขาสองคนแล้วกด
“เดี๋ยวพี่ถ่ายให้ !” เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้น นัทจึงละสายตาจากแก้มเนียนนั้นแล้วหันไปมอง คนสวยยื่นกล้องให้กับ พี่แสตมป์ ที่เขาเห็นเมื่อคืนนั้นกดชัตเตอร์ให้
“ขอบใจนะ” คนตัวเล็กผละออกห่างเมื่อได้ถ่ายรูปสมใจ ความรู้สึกโหวงในอกปนเสียดายทำให้นัทโพล่งออกไปรวดเร็วไม่รู้ตัว
“อยู่ฟังเพลงสุดท้ายของคืนนี้หน่อยนะครับ”
“.....” เจ้าของเรือนผมสลวยหันมามองก่อนจะพยักหน้ารับแล้วไปหยุดยืนข้างกายอีกคนที่ส่งกล้องคืนมาให้ด้วยใบหน้าไม่พอใจ หากนัทไม่ได้สนใจเพราะสายตาของเขาจับจ้องที่คนเพียงคนเดียวเท่านั้น นิ้วยาวดีดสายเกิดทำนองคุ้นหูในแบบของตัวเองต่างกับต้นฉบับจริง หากแต่ไพเราะไม่ต่างกัน...
ตั้งแต่วันที่ผมได้พบ วันที่ผมได้เห็นหน้า
สายตาและหัวใจเจอะที่คุณ
ตั้งแต่นั้นผมก็ได้รู้ ชีวิตผมก็ได้รู้
ว่าจากนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วคุณ
คือคุณนั่นเองตลอดมา ที่ตัวผมเองเฝ้าใฝ่หา
เมื่อมองรอบกาย ที่มีคนมากมาย
มีคุณคนเดียวที่ผมมองเห็นในสายตา
มันทรมานเกินจะเก็บไว้
จึงบอกคุณไปแล้วได้ยินไหม
ถ้าหากคุณไม่ตอบรับ
ก็ช่วยเก็บเป็นความลับตลอดไป
ถ้าหากคุณไม่ตอบรับ
ก็ช่วยเก็บเป็นความลับ ว่าผมรักคุณ
เสียงปรบมือดังขึ้นหากแต่คนที่ยืนอยู่ๆรอบไม่เดินออกไปนอกจากจะส่งเสียงขอให้ชายหนุ่มเล่นอีกสักเพลงสองเพลงมากกว่านี้ แต่นัทยังคงนิ่ง สายตาของเขามองเข้าไปยังดวงตากลมดำขลับของคนตรงหน้านิ่งเหมือนรอคอย ริมฝีปากบางคู่นั้นไม่มีรอยยิ้มปรากฏเช่นก่อนหน้า ฝ่ายนั้นจ้องนิ่งเข้ามาในดวงตาของเขาเช่นกัน
นัทไม่หลบตาเพราะเขาอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าจริงจังเหมือนเพลงที่เขาร้องทุกอย่าง แค่เพียงคนตรงหน้าจะตอบรับอย่างไร...
“ไปกันเถอะ” พี่แสตมป์คนเดิมรั้งแขนเล็กให้เดินตามพลางส่งสายไม่พอใจมายังชายหนุ่มที่กอดกีตาร์เอาไว้ สายตาของทั้งสองคนที่มองกันนิ่งนั้นทำให้เขาออกแรงกระชากคนตัวเล็กให้เดินเร็วๆ
นัทนั่งนิ่งมองคนตัวเล็กที่ถูกลากออกไปด้วยใจห่อเหี่ยวและเจ็บปวดยิ่งนักเพราะดูเหมือนว่าความรู้สึกของเขาคงต้องเก็บเป็นความลับอย่างที่เพลงว่าจริงๆ หากแต่แล้ว....
ใบหน้าขาวที่หันกลับมาพร้อมรอยยิ้มหวาน ดวงตาขี้เล่นคู่นั้นพราวระยับ เส้นผมยาวปลิวละแก้มเนียนตามแรงลม ทั้งๆที่โดนลากแขนออกไป กระนั้นเขายังหันมามองและริมฝีปากคู่นั้นก็ขยับโดยไร้เสียง
‘มันไม่ใช่ความลับเสียหน่อย....’
หัวใจของนัทพองโตคับอกกับคำตอบนั้นของคนตัวเล็ก แม้ว่าทั้งสองคนจะหายไปจากสายตาของเขาแล้วก็ตาม เขาไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่า ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง...ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ เขาและใครคนนั้นจะเดินทางมาพบกันอีกครั้ง และถ้าคราวหน้าเขาได้เจอล่ะก็....
เขาจะกล้ามากกว่านี้เพื่อเข้าไปคุย....
เขาจะกล้ามากกว่านี้เพื่อให้ได้รู้จักชื่อ....
เขาจะกล้ามากกว่าเพื่อจะได้กลายเป็นคนรู้จักไม่ใช่คนแปลกหน้า...
และเมื่อถึงเวลานั้นความลับของเขาคงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป....เพราะเขานั้นรักเลยในครั้งแรกตั้งแต่สบตาคู่นั้นและหวังว่าอีกฝ่ายจะรักเลย....เช่นเดียวกันกับเขา....
Fin
อ๊ากกกกกกกกก
ตอบลบน่ารักมากมายค่ะ
น่ารักจังเลยค่ะ ชอบๆ
ตอบลบแอร๊ยยย
ตอบลบเป็นฟิคที่น่ารักที่สุดในสามโลกกก
น่ารักจิงๆ แต่งได้ดีมากเลย
จะตายแล้วตอนนี้ เขิลมากก
555 พี่นัทหลงเสน่ห์
หนุ่มผมยาวเข้าซะแล้ว
อยากให้มีภาคต่อนะคะ
สนุกจิงๆ เฝ้ารอน้า ^^
love it! so cute! ^__^
ตอบลบพี่แสตมป์นะตลอดๆ
ตอบลบน่ารักจังเลยค่ะ
ตอบลบเราชอบสำนวนการเขียนของเธอนะ
แต่งต่ออีกนะจะรออ่าน...
ตอบลบอ๊ากกกกกกกกกกกกกก
ตอบลบให้ตายเหอะน่ารักมากอะ
แต่งกันเลยมั๊ยคู่นี้
^^
น่ารักมวาก แต่งเก่งมากค่ะ ชอบๆ น่าจะไปเขียนนิยายเป็นเรื่องเป็นราวน้า ลองส่งต้นฉบับไปตามสำนักพิมพ์ไหมจ้ะ
ตอบลบน่ารักสุดๆ มีอีกไหมนี่
ตอบลบจะคอยติดตามนะคะ น่ารักมากกกกกก
ตอบลบ